สื่อมวลชนอเมริการายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถึงกรณีที่ทีมรักษาความปลอดภัยแห่งชาติในทำเนียบขาว ได้ทำการพิจารณาเพื่อกำหนดนโยบายโดยรวมของสหรัฐฯต่ออิหร่าน โดยได้บรรลุบทสรุปในแผนหนึ่ง ซึ่งหากได้รับการอนุมัติโดยประธานาธิบดีอเมริกาแล้ว ก็จะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์ใหม่ของกรุงวอชิงตันต่อกรุงเตหะรานในหลายปีข้างหน้า ทั้งนี้การกระทำของสหรัฐอเมริกาเพื่อขึ้นบัญชีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามในรายชื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้จากทั่วโลก
ความกังวลของฝรั่งเศสเกี่ยวกับแผนของทำเนียบขาวเพื่อประกาศให้ IRGC เป็น “องค์กรก่อการร้าย”
โฆษกกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อแผนของทำเนียบขาว ที่จะขึ้นชื่อกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเป็นองค์กรก่อการร้าย และกล่าวเสริมว่า การดำเนินการเช่นนี้ มันจะนำไปสู่การความตึงเครียดมากขึ้นในภูมิภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวในการตอบคำถามประเด็น ปารีสจะให้การสนับสนุนการประกาศให้ IRGC ขึ้นบัญชีองค์กรก่อการร้ายหรือไม่ ? : เขาตอบว่า “ในสภาวะความไม่มั่นคงในภูมิภาค ฝรั่งเศสจะต้องทบทวนและมีจุดยืนอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีการดำเนินการที่อาจทำให้วิกฤติในปัจจุบันรุนแรงขึ้น” (1)
แหล่งข่าวในกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย : การขึ้นบัญชี IRGC เป็นกลุ่มการร้ายถือเป็นการคุกคามความมั่นคงของโลก
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ก็ยังได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถึงการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการทำเนียบขาว กรณีที่จะมีการประกาศให้ IRGC เป็น “องค์กรก่อการร้าย” ดังกล่าว ซึ่งทางกระทรวงได้แสดงการคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้
สำนักข่าว sputnik (อาหรับ) อ้างถึง แหล่งข่าวของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียว่า “การกระทำของอเมริกาเพื่อเพิ่มชื่อของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามในบัญชีของการก่อการร้ายนั้น ทำให้การปราบปรามผู้ก่อการร้ายเป็นอุปสรรคมากขึ้น ”
แหล่งที่มาในกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน อาจนำไปสู่ประเด็นด้านลบต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก
แหล่งที่มาซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า “สหรัฐอเมริกา กล่าวหาว่าหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของประเทศอื่นเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นประเด็นที่ทำให้เตหะรานต้องหามาตรการที่จำเป็นในการตอบโต้การกล่าวอ้างดังกล่าวอย่างงแน่นอน เรารู้ว่าหลักการของการเผชิญปัญหามีอยู่ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ … ซึ่งในเงื่อนไขของการปิดบังที่ผิดกฎหมาย ซึ่งไม่จำกัดจำนวนองค์ประกอบของอเมริกาในซีเรียนั้น อาจนำไปสู่ผลกระทบที่เลวร้ายที่สุด และไม่เพียงแต่ในตะวันออกกลางเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบต่อความมั่นคงนานาชาติอีกด้วย
แหล่งข่าวของรัสเซียอธิบายว่า “การกล่าวหา กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ตามที่เรารับรู้จากสถานการณ์ซีเรียในปัจจุบันนั้น มันสอดคล้องกับตรรกะที่ผิดพลาดของอเมริกา และข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่ได้ช่วยในการเอาชนะผู้ก่อการร้าย แต่ในทางตรงกันข้าม มันจะยิ่งก่อให้เกิดอุปสรรคปัญหามากขึ้น เพราะแท้ที่จริง เป้าหมายหลักของมัน ก็เป็นไปเพื่อลดแรงกดดันทางทหารต่อผู้ก่อการร้าย (2)
เดอะการ์เดียน : ความอดทนของอิหร่านมีขีดจำกัด
ปฏิกิริยาของอเมริกาต่อการขึ้นบัญชีกลุ่มก่อการร้ายของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ถือเป็นการกระทำที่เกินขอบเขต สื่ออังกฤษ “The Guardian” ได้รายงานในบันทึกการพิจารณาการตัดสิน ที่อาจเป็นไปได้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อขึ้นบัญชีกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเป็นกลุ่มก่อการร้าย ว่า “การดำเนินการนี้ไม่ได้เป็นการขัดขวาง IRGC แต่มันจะสร้างปัญหาในการค้ากับอิหร่าน”
ตามที่ The Guardian แสดงทัศนะเกี่ยวกับปฏิกิริยาของผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม ในความเป็นไปได้ที่จะถูกขึ้นบัญชีกลุ่มก่อการร้ายตามถูกกล่าวหานั้นว่า “ความอดทนของอิหร่านมีขีดจำกัด”
แอนดรูว์ แคลร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอดีตเจ้าหน้าที่ ในแผนกคว่ำบาตรของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเขียนว่า : การขึ้นบัญชีกลุ่มก่อการร้ายของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามนั้น มันไม่มีประโยชน์และเป็นอันตราย เพราะกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามกำลังอยู่ภายใต้การคว่ำบาตรหลายครั้งของสหรัฐฯ และการประกาศให้กองกำลังดังกล่าวเป็นผู้ก่อการร้ายนั้น ไม่ได้ขัดขวางการดำเนินงานของ IRGC แต่อย่างใด แต่มันเพียงแค่จะทำให้เกิดปัญหาทางการค้ากับอิหร่านเท่านั้นเอง ”
ริชาร์ด ดาลตัน อดีตทูตอังกฤษในกรุงเตหะราน ยังเชื่อด้วยว่า การประกาศขึ้นชื่อกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้ายก่อการร้ายนั้น ถือเป็นการสร้างสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับอิหร่าน แต่ไม่คิดว่าอิหร่านจะกระโจมเข้าสู่ความขัดแย้งทางทหารกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ดาลตัน ยังยืนยันว่าทรัมป์เป็นบุคคลที่อื้อฉาวในฐานะเป็น “นักแสดงที่เลวในการเผชิญหน้ากับอิหร่าน ”
ควรสังเกตว่านายพล Mohammad Ali Ja’fari ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามกล่าวในวันอาทิตย์เพื่อตอบโต้ต่อรายงานเหล่านี้ ว่า : “ถ้าข่าวที่ถูกแพร่กระจายออกไปเกี่ยวกับความโง่เขลาของรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีที่จะทำการพิจารณากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเป็นกลุ่มก่อการร้ายเป็นจริงแล้ว กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติก็จะทำการกำจัดกองทัพสหรัฐฯที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลางให้ราบเป็นหน้ากลอง เหมือนกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสอย่างแน่นอน ”
____
อ้างอิง:
1)https://www.tasnimnews.com/fa/news/1396/07/17/1541116
2)http://www.farsnews.com/newstext.php?nn=13960720000345