วันอาชูรอ: มุสลิมร่วมต่างศาสนิกนับหมื่น เดินขบวนต่อต้านไอซิสและลัทธิก่อการร้าย ในกรุงลอนดอน

339

The Independent UK รายงาน: มุสลิม และชนต่างศาสนิกนับหมื่นคน ร่วมกันเดินขบวนประท้วงไอซิสและลัทธิก่อการร้าย ในวันอาชูรอ ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

ผู้ร่วมชุมนุมอย่างสงบ ได้ใช้วันสำคัญทางศาสนา หรือวันอาชูรอ รวมตัวกันรำลึกถึงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุก่อการร้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ผู้คนจากทุกเพศทุกวัย ได้รวมกันเดินขบวนจากสวนสาธารณะ Hyde ไปจนถึงจตุรัส Trafalfar โดยมีการถือป้ายและชูแบนเนอร์ บรรจุข้อความต่อต้านการก่อการร้าย อาทิเช่น “การก่อการร้ายคือศัตรูของอัลลอฮ์และมนุษยชาติ” และ “ไอซิสไม่ใช่ทั้งอิสลาม และรัฐอิสลาม”

Faiths Forum องค์กรที่มีส่วนร่วมในการจัดการเดินขบวนครั้งนี้ระบุว่า มีผู้คนมากกว่า 10,000 คน ร่วมเดินขบวนประท้วงทั้งสอง ทั้งในลอนดอนและสวนสาธารณะฮอลแลนด์ ในกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม ยังมีน้องชายของผู้ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม David Haines ซึ่งถูกตัดศีรษะโดยขบวนการไอซิสเมื่อปี 2014 เข้าร่วมการเดินขบวนดังกล่าวด้วย

เมื่อพูดถึงการเดินขบวนครั้งนี้ Mike Haines ผู้เป็นน้องชายกล่าวว่า “มันมีความสำคัญที่เราควรจะแสดงปฏิกิริยาด้วยวิธีที่เป็นบวก เพื่อต่อต้านผู้เกลียดชัง ผู้กระหายสงครามเหล่านี้ ผมคร่ำครวญถึงการตายของพี่ชายผมทุกวัน อย่างไรก็ตาม เขาทราบถึงความเสี่ยงของการเป็นผู้ช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างดี”

“เขาและครอบครัวของเรายอมรับความเสี่ยงเหล่านั้น เพราะพี่ชายกำลังทำงานที่มีความสำคัญ ด้วยการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่คำนึงว่าถึงลัทธิความเชื่อ สีผิว ชนชาติ หรือศาสนา”

การฆาตกรรม พี่ชายของผมอย่างโหดเหี้ยม การวางระเบิดกลุ่มวัยรุ่นในคอนเสิร์ต เหตุโจมตีศาสนสถานอย่างน่าสลดใจ กลุ่มบุคคลที่ไม่อาจให้อภัยได้ ซึ่งเข่นฆ่าผู้คนเพียงเพราะศาสนา หรือสีผิว “พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือการปลุกระดมความเกลียดชัง” Mike Haines กล่าวเสริม

Ayatollah Fadhil al-Milani อิมามอาวุโส ประจำ Al-Khoei Islamic Centre ระบุว่า มีศรัทธาชนนับหมื่นราย ร่วมกันเดินขบวน ตามถนนหนทางในกรุงลอนดอน ในวันอาชูรอ โดยกล่าวว่า “พวกเขาทำสิ่งนี้เพื่อปลุกจิตสำนึกของเราไปยังสาส์นแห่งมนุษยชาติของอิมามฮูเซน (หลานของศาสดามุฮำหมัด)” และยืนหยัดต่อต้านความเกลียดชังและความหวาดกลัวจากการก่อสงคราม

“อิมามฮูเซนสอนให้เราสร้างสัมพันธมิตรแห่งสังคม และเสริมสร้าง มนุษยธรรมระหว่างกันและกัน อย่างแน่นอน นี่คือแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง สำหรับการทำลายซึ่งอุดมการณ์แห่งความเกลียดชัง”

David Haines ถูกสังหารโดยกองกำลังไอซิส ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ จิฮาดิสต์ จอร์น ในปี 2014 เขาเป็นตัวประกันชาวตะวันตกคนที่ 3 และเป็นชาวอังกฤษคนแรก ซึ่งถูกตัดศีรษะโดยกลุ่มไอซิส ต่อหน้าสายตาประชาคมโลก

วันอาชูรอ หมายถึง วันที่ 10 ของเดือนมุฮัรรอม ซึ่งเป็นเดือนที่หนึ่ง และเป็นหนึ่งในเดือนที่มีความศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลาม ซึ่งเป็นวันแห่งการเชือดเฉือนหลานชายสุดที่รักของท่านศาสดาแห่งอิสลาม นามว่า ฮูเซน พร้อมวงศ์วานและสหายร่วมอุดมการณ์ ณ แผ่นดินกัรบาลา ประเทศอิรักในปัจจุบัน เหตุการณ์ดังกล่าว มักจะถูกเรียกขานว่า “โศกนาฏกกรรม หรือ วีรกรรมแห่งกัรบาลา” เป็นเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี ฮ.ศ. 61 เป็นโศกนาฏกรรมทางประวัติศาสตร์อิสลามที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) หลังจากการจากไปของท่านที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และมีบันทึกอยู่ทั้งจากฝ่ายของซุนหนี่และชีอะฮ และโดยเฉพาะทางฝ่ายชีอะฮ เพราะมีความเชื่อเรื่องอิมาม 12 จากวงศ์วานแห่งศาสดา เป็นผู้นำประชาชาติหลังจากท่านศาสดา(ศ็อลฯ) และอิมามฮูเซน คือ อิมามลำดับที่ 3 ในจำนวนอิมามทั้ง 12 ท่าน

วีรกรรมแห่งกัรบาลา ถูกสำแดงขึ้นเมื่อคราที่ท่านอิมามฮูเซน (อฺ) ครอบครัว บุตรหลาน และสาวกของท่าน ได้เสียสละชีวิต เลือดเนื้อ และความผาสุกทางโลก จัดตั้งกองคาราวานแม้ด้วยกำลังอันน้อยนิด ลุกขึ้นโค่นล้มอำนาจ และต่อกรกับทรราช ในยุคสมัยนั้น เพื่อดำรงไว้ซึ่งสัจธรรม และหลักคำสอนอันบริสุทธิ์ของท่านตาของท่าน หรือ ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) โดยต่อมาสาส์นแห่งวีรกรรมและวาทะกรรมอันเป็นอมตะนี้ ได้ถูกถ่ายทอดเรื่องราวจากรุ่นสู่รุ่น กระทั่งได้กลายมาเป็นต้นแบบแห่งการปฏิวัติของชนรุ่นหลัง รวมไปถึงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่บรรดานักต่อสู้เพื่อเสรีภาพที่แท้จริง หลายๆ คน ทั้งที่เป็นมุสลิมและไม่ใช่มุสลิม (เช่น มหาตะมะ คานธี, เนลสัน แมนเดลา และ ฯลฯ) ด้วยเพราะ วีรกรรมนี้ได้สำแดงบทพิสูจน์ถึงสัจธรรมที่ว่า เลือดมีชัยเหนือคมดาบ หรือในภาษาบ้านเรา…ธรรมมะย่อมชนะอธรรม

Sources/Images: independent.co.uk