-วันที่ 14 มกราคม 59 เกิดเหตุโจมตีย่านใจกลางกรุงจาการ์ตา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน เป็นผู้ก่อเหตุ 4 คนและพลเรือน 4 คน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอินโดนิเชีย สืบสวนสอบสวนได้ว่าบุคคลที่ก่อการ คือ นักรบ IS สัญชาติอินโดนิเชีย ที่กลับสู่ภูมิลำเนาเดิม[1]
-วันที่ 16 มกราคม 59 ตำรวจมาเลเซีย จับกุมตัวชายชาวมาเลเซีย พร้อมอาวุธ และเอกสารที่ยืนยันถึงการเกี่ยวโยงกับ
-วันที่ 25 มีนาคม 59 ตำรวจมาเลเซีย จับกุม ผู้ต้องสงสัย IS จำนวน 15 คน เป็นตำรวจเอง 1 คน ขณะกำลังพยายามหาซื้อสารเคมี เพื่อใช้ประกอบวัตถุระเบิด[2]
-วันที่ 24 มีนาคม ถึง 25 เมษายน ทางการมาเลเซีย สามารถจับกุม สมาชิก IS เป็นจำนวน 6 คน ตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมี 1 คน หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย พร้อมอาวุธ เป็นปืน ไรเฟิล เอ็มสี่ และปืนสั้น 1 กระบอก [3]
-วันที่ 23 พฤษภาคม 60 กลุ่มติดอาวุธ มาอูเต บุกยึดเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ประมาณทั้งหมด รวมทุกฝ่าย 310 คน ซึ่งภายหลัง กลุ่มมาอูเต ได้ประกาศเข้ากับกลุ่ม IS อีกกลุ่มหนึ่ง[4] ในรายงานของทางการระบุว่า มีสมาชิก 6 คนที่เป็นชาวต่างชาติ เหตุการณ์นี้นับเป็นการรุกคืบที่รุนแรงที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
-วันที่ 23 มิถุนายน 59 กลุ่ม IS ได้เผยแพร่วิดิโอ 5 ภาษา ได้แก่ อาหรับ อังกฤษ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและมลายูมาเลเซีย ในคลิปมีการแนะนำ นาย อับดุลลอฮ อัลฟิลิปปีนีย์ เป็นผู้นำ IS ประจำสาขาฟิลิปปินส์[5]
-วันที่ 5 กรกฎาคม 59 นาย นูร์ รอฮ์มาน (Nur Rohman) ผู้สนับสนุนกลุ่ม ISIS ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานีตำรวจ จังหวัดสุราการ์ตา อินโดนีเซีย ตำรวจสืบสวนได้ข้อมูล นาย นูร์ รอฮ์มาน เป็นสมาชิกในกลุ่มสนับสนุนการก่อการร้ายในพื้นที่ท้องถิ่น[6]
-วันที่ 5 กรกฎาคม 59 กลุ่ม IS ได้เผยแพร่คลิปวิดิโอ ข่มขวัญ รัฐบาล และ ประชาชนชาวมาเลเซีย ว่าจะออกมาก่อการในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งในคลิปนี้ปรากฏชายฉกรรจ์ จำนวนหนึ่ง และมีเด็กหนุ่มวัยรุ่น อีกหลายคน ถือปืน AK-47 [7]
-วันที่ 11 กรกฎาคม 59 กลุ่ม IS เผยแพร่หนังสือพิมพ์ ชื่อ Al FATIHIN ฉบับภาษามลายู ทั่วเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ โดยพื้นที่เป้าหมายคือ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ภาคใต้ของฟิลิปปินส์ และ ภาคใต้ของไทย โดยในหนังสือพิมพ์ บรรยายถึงเรื่องราวของ อะบู บิลาล อัลฮิมชี,การบริจาค,แผนที่แผ่นดินเป้าหมาย พร้อมเชิญชวนนักรบให้หันมาเข้ากับ IS และภักดีต่อผู้นำ IS [8]
-วันที่ 3 กันยายน 59 กลุ่มอบูไซยาฟ ได้วางระเบิด บริเวณตลาดกลางคืนของเมืองดาเวา เกาะมินดาเนา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย[9]
-วันที่ 26 ตุลาคม 59 องค์กรต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติอินโดนีเซีย(Indonesia’s National Counter-terrorism Agency (BNPT))แถลงว่า ผู้ก่อการร้ายชาวอินโดนีเซีย จำนวน 53 คน ที่เข้าร่วมกับไอซิสในซีเรีย เดินทางกลับมายังบ้านเกิดของพวกเขา และขณะนี้พวกเขากำลังดึงแนวร่วมและกองกำลังชุดใหม่[10]
นี่คือข้อมูล อาชญากรรม ของ กลุ่มก่อการร้าย ไอเอส ที่ปฏิบัติการในพื้นที่เอเชียอาคเนย์ หากสังเกตจะเห็นว่า พื้นที่ปฏิบัติการขยายวงออก โดนกินพื้นที่ สามประเทศเป็นหลัก ได่แก่ อินโดนิเซีย มาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ และจากข้อมูลปฏิบัติการในปี 2016 ยังสามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า บริเวณการขยายตัวของ ไอเอส คือ บริเวณ ที่มีกลุ่มเก่าประจำพื้นที่อยู่แล้ว อาทิ อาบู ไซยาฟ จึงพิสูจน์ได้สองประเด็น หนึ่งคือ ยุทธการปลาหมึกยักษ์ ที่นำเสนอว่า กลุ่มไอเอส กำลังย้ายนักรบและพื้นที่ปฏิบัติการจากตะวันออกกลาง มาสู่เอเชียอาคเนย์ และ สอง คือ กลุ่มก่อการร้ายที่จะกลายเป็นสมาชิกไอเอส คือ กลุ่มคนในพื้นที่ และ กลุ่มก่อการที่มีอัตลักษณ์ทางความคิด และมีทัศนคติทางการเมืองเหมือนกับ ไอเอส หากพิจารณา จากจุดนี้ เราจะพบว่า ประเทศไทย ก็มีกลุ่มบุคคลที่มีแนวความคิด และทัศนคติทางการเมือง เหมือน ไอเอส เช่นเดียวกัน แน่นอนว่า นั่น ไม่ใช่แนวคิดของอิสลาม
[1] http://www.bbc.com/news/live/world-asia-35309116
[2] https://www.theguardian.com/world/2016/mar/25/15-isis-suspects-arrested-in-malaysia-had-received-orders-to-attack-say-police
[3] http://www.channelnewsasia.com/news/asiapacific/malaysia-arrests-6-islamic-state-suspects-8813294
[4] https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B5_(%E0%B8%9E.%E0%B8%A8._2560)
[5] http://www.straitstimes.com/asia/se-asia/isis-targets-south-east-asia-radicals-in-latest-recruitment-video-propaganda-says
[6] http://annx.asianews.network/content/surakata-suicide-bomber-identified-sympathiser-nur-rohman-21740
[7] http://www.straitstimes.com/asia/se-asia/isis-videos-declare-war-on-malaysia-and-indonesia
[8] http://www.themalaymailonline.com/malaysia/article/al-fatihin-a-newspaper-for-malay-speaking-is-militants
[9] http://www.bbc.com/news/world-asia-37262499
[10] http://www.channelnewsasia.com/news/asiapacific/53-indonesians-back-home-after-joining-is-in-syria-7770266