เพรสทีวี – อิหร่านเลื่อนเที่ยวบินอุมเราะห์ไปซาอุฯ อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าซาอุฯจะตัดสินลงโทษเจ้าหน้าที่สนามบินญิดดะห์ที่ลวนลาม 2 สตรีอิหร่านที่ไปแสวงบุญ
อาลี ญันนาตี รัฐมนตรีวัฒนธรรมและการชี้นำอิสลามอิหร่าน เผยเมื่อวันที่ 13 เมษายน ว่า หลังจากการสอบสวนและพิจารณาตรวจสอบแล้ว ได้ส่งสำนวนจดหมายยังกระทรวงกิจการฮัจญ์อิหร่าน ว่า ให้เลื่อนการส่งผู้แสวงบุญอุมเราะห์ อย่างไม่มีกำหนด จนกว่าซาอุฯ จะตัดสินคดีและลงโทษผู้กระทำผิดที่ลวนลามชาวอิหร่านสองคน ณ. สนามบิน ญิดดะห์
เขากล่าวว่า จากการแสดงความวิตกกังวลของบรรดามัรเญียะตักลีด โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่บรรดาผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน และผู้นำคาราวานฮัจญ์ถูกเลือกปฏิบัติอย่างรุนแรงนั้น ผลจากการพิจารณาตรวจสอบแล้ว เห็นควรที่จะเลื่อนเที่ยวบินส่งผู้แสวงบุญอุมเราะห์ทั้งหมด เป็นการชั่วคราว
เขากล่าวเสริมว่า เหตุการณ์ที่น่าสลดใจที่เกิดขึ้น ณ. สนามบิน ญิดดะห์ ครั้งนี้ ก็ได้มีการพูดคุยกับทางทูตกับเจ้าหน้าที่ซาอุฯแล้ว และพวกเขาให้คำมั่นว่า จะบุคคลต้องสงสัยถูกจับกุมตัวแล้ว และจะทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดี และพวกเขายังทำการยืนยันอีกว่า จะลงโทษประหารชีวิตอีกด้วย แต่ในภาคปฏิบัติยังไม่มีอะไรคืบหน้า ด้วยเหตุนี้ เป็นการลบหลู่และหมิ่นเกียรติของประชาชนอิหร่าน ทำให้เราตัดสินใจในการเลื่อนการส่งผู้แสวงบุญอุมเราะห์ทั้งหมดอย่างไม่มีกำหนด
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม เจ้าหน้าที่สนามบิน กรุงญิดดะห์ ขณะที่กำลังตรวจค้นร่างกายของผู้โดยสาร ได้เห็นชาวอิหร่านสองคน อายุ 14 และ 15 ปี ที่กำลังจะเดินทางกลับประเทศหลังเสร็จสิ้นการประกอบพิธีอุมเราะห์ โดยอ้างว่าต้องสงสัยจึงนำพาสองคนดังกล่าวไปทำการตรวจค้น จากนั้นก็ได้ลวนลามทางเพศผู้โดยสารทั้งสองคน
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ส่งจดหมายร้องเรียนและเรียกทูตซาอุฯ ให้ทางการรัฐบาลเร่งสอบสวนคดีและลงโทษผู้กระทำผิดในครั้งนี้ให้ถึงที่สุด
ส่งสำนวนฟ้องยังอัยการสูงสุดซาอุฯ เหตุพนักงานสนามบิน ซาอุฯ “ลวนลามผู้แสงบุญชาวอิหร่าน”
กระทรวงมหาดไทยซาอุฯ เปิดเผย มีการส่งสำนวนฟ้องยังอัยการสูงสุดซาอุฯ กรณี การลวนลามชาวอิหร่านสองคน ที่เดินทางยังซาอุฯ เพื่อประกอบพิธีอุมเราะห์
นายพล มันศูร อัลตุรกี โฆษกด้านความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยซาอุฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวอิหร่านสองคน ถูกลวนลาม ณ. สนามบิน ญิดดะห์ ก็ได้มีการส่งสำนวนฟ้องยังอัยการสูงสุดซาอุฯ เพื่อไต่สวนคดีนี้
เขากล่าวว่า ทางเราได้แจ้งยังทูตอิหร่านประจำกรุงริยาด ในการดำเนินการขั้นตอนทั้งหมดของสำนวนคดีในครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ซาอุฯ ย้ำว่า หากพิจารณาตามกฎหมายของประเทศ และสามารถพิสูจน์ว่าเกิดการลวนลามขึ้นจริง ตามกฎหมายในประเทศแล้วจะต้องได้รับบทลงโทษหนัก
โฆษกกระทรวงมหาดไทยซาอุฯ ย้ำว่า พฤติกรรมที่ได้กระทำมานั้น มันขัดแย้งกับหลักศีลธรรม ซึ่งแน่นอนยิ่งประชาชนชาวซาอุฯ ก็ไม่พอใจและไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้
