การมาถึงของเรือกรีซที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลที่ใช้สำหรับการขุดเจาะเพื่อสกัดก๊าซในแหล่งก๊าซ “คาริช” ทำให้กรณีข้อพิพาทชายแดนทางทะเลระหว่างเลบานอน – อิสราเอลได้รับความสนใจจากสื่ออีกครั้ง
แหล่งน้ำมันคาริชครอบคลุมพื้นที่ 1,430 ตารางกิโลเมตรในเขตชายแดนที่ 29 ระหว่างเลบานอนกับดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง โดยที่เลบานอนเน้นย้ำว่าแหล่งน้ำมันส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตแดนของประเทศนี้ในทางตรงกันข้าม อิสราเอลก็อ้างว่าทั้งภูมิภาคอยู่ภายใต้ “อธิปไตย” ของอิสราเอล
ในจดหมายฉบับล่าสุดที่ส่งถึงองค์การสหประชาชาติเกี่ยวกับการแบ่งเขตแดนกับอิสราเอล เลบานอนเรียกร้องให้กำหนดเส้น 29 แทนสาย 23 (360 ตารางกิโลเมตร) ซึ่งทำให้พื้นที่ข้อพิพาทระหว่างทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 1,430 ตารางกิโลเมตร
การเจรจาระหว่างเลบานอน-อิสราเอลเพื่อแบ่งพรมแดนทางทะเลเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2020 ต่อมาการเจรจาหยุดชะงักในเดือนพฤษภาคม 2021 หลังจากเลบานอนนำเสนอแผนใหม่และให้เหตุผลเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อเรียกร้องภายในประเทศ แต่ประธานาธิบดีมิเชล อูน ของเลบานอนก็ไม่ยอมรับเอกสารที่ยอมรับบรรทัดที่ 29 เป็นพรมแดนทางทะเลของเลบานอน และเน้นย้ำว่าพรมแดนของเลบานอนเหมือนกับเส้นสายที่ 23 อย่างไรก็ตามรัฐบาลเลบานอนได้ส่งเอกสารดังกล่าวไปยังสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ
การเจรจาระหว่างเลบานอน-อิสราเอล โดยมีสหรัฐฯเป็นสื่อกลางหลังจากการเจรจาเป็นเวลานานราว 2 ปี และนำทีมเจรจาโดยนาบีห์ แบร์รี ประธานรัฐสภาเลบานอน การเจรจาเหล่านี้ดำเนินการทางอ้อมและการไกล่เกลี่ยของสหรัฐอเมริกา
เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาล่าสุด สำนักงานนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเลบานอน ซึ่งเพื่อความก้าวหน้าของกิจการได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนว่า นายกรัฐมนตรีรักษาการ นาจิบ มิคาติ ได้พบกับประธานาธิบดีมิเชล อูน ที่ทำเนียบประธานาธิบดีเลบานอนตามคำเชิญของอามอส ฮ็อกสไตน์ ผู้ไกล่เกลี่ยของสหรัฐฯ ในเลบานอน และพิจารณามาตรการที่จำเป็นต่อความพยายามของอิสราเอลในการสร้างความตึงเครียดที่ชายแดนภาคใต้
ถ้อยแถลงได้เน้นย้ำว่า เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของกองทัพเรือของเรือหน่วยผลิตก๊าซธรรมชาติของอิสราเอลใกล้กับพื้นที่พิพาททางตอนใต้ของเลบานอน นายนาจิบ มิคาติได้พบกับมิเชล อูนที่ทำเนียบประธานาธิบดีเลบานอน และใช้มาตรการที่จำเป็นต่อความพยายามของอิสราเอลในการสร้างความตึงเครียดต่อ ชายแดนใต้ ตรวจสอบแล้ว
แถลงการณ์เสริมว่าพวกเขาตกลงที่จะเชิญผู้ไกล่เกลี่ยของสหรัฐเดินทางไปเบรุตเพื่อศึกษาวิธีการเจรจาเรื่องการแบ่งเขตชายแดนทางทะเลทางใต้ให้เสร็จสิ้น และพยายามทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
พวกเขายังตกลงที่จะชี้แจงจุดยืนของเลบานอนในการติดต่อกับโลกและสหประชาชาติ และเพื่อเน้นย้ำถึงสิทธิถาวรของประเทศและทรัพยากรธรรมชาติ
ตามรายงานของ Middle East News คำแถลงดังกล่าวเน้นย้ำว่าเลบานอนถือว่าการกระทำใดๆ ของอิสราเอลในการเจาะหรือดึงทรัพยากรธรรมชาติในน่านน้ำพิพาทเป็นการกระทำที่เป็นปรปักษ์และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและสันติภาพระหว่างประเทศ และเป็นการก่อวินาศกรรมกระบวนการแบ่งเขตชายแดนอีกด้วย
ในเวลาเดียวกัน เชคนาอีม กอซิม รองเลขาธิการฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน เน้นย้ำว่าหากรัฐบาลเลบานอนประกาศอย่างเป็นทางการว่าอิสราเอลได้ขุดเจาะน้ำมันและดินแดนของเลบานอน ฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนก็พร้อมที่จะตอบโต้ในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ เพื่อป้องกันการกระทำนี้ของอิสราเอล
เขากล่าวว่ารัฐบาลเลบานอนควรกำหนดภารกิจและระบุอย่างชัดเจนว่าเรือของอิสราเอลกำลังทำงานอยู่ในหรือนอกพื้นที่พิพาท
เชคนาอีม กอซิม เรียกร้องให้รัฐบาลเลบานอนแสดงความมุ่งมั่นมากขึ้นและเพิ่มแรงกดดัน และให้ระบุอย่างชัดเจนว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปหรือว่าพวกเขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง โดยกล่าวเสริมว่า: การขอให้ตัวแทนของสหรัฐฯ เสนอข้อเสนอที่ไม่สมจริงนั้น มันเป็นการฆ่าเวลา
เขากล่าวว่าฮิซบุลเลาะห์จะอยู่ภายใต้การตัดสินใจของรัฐบาลในเรื่องนี้ แต่สนับสนุนให้รัฐบาลตัดสินใจโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้การสำรวจแหล่งสำรองก๊าซในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายฝั่งใกล้กับดินแดนที่ถูกยึดครองของเลบานอนและปาเลสไตน์ ทำให้ภูมิภาคนี้มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์มากขึ้น และได้มีการพยายามแก้ไขข้อพิพาทเพื่อเริ่มการขุดเจาะและสกัดก๊าซจากภูมิภาค
ในเดือนมกราคม 2016 เลบานอนได้ออกใบอนุญาตสำรวจน้ำมันและก๊าซเป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และการใช้สิทธิทางทะเล
บริษัทได้ลงนามในสัญญาสำรวจน้ำมันและก๊าซฉบับแรกในพื้นที่นอกชายฝั่งทั้งสองแห่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับสมาคมระหว่างประเทศของบริษัทฝรั่งเศส บริษัทอิน ของอิตาลีและบริษัทโนวาแท็กของรัสเซีย
source:
