สถานี โทรทัศน์ อัลอาราบียา ได้รายงานว่า อยาตุลเลาะฮ์ คาเมเนอี ได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการปราบปรามและทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้าย ISIS
สำนักข่าว ฝรั่งเศส ก็ได้รายงานข่าวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยรายงานอ้างอิงจาก คำกล่าว ของ อยาตุลเลาะฮ์ คาเมเนอีย์ ว่า “โดยแท้จริงแล้ว สหรัฐฯ ได้ร่วมมือ กับ ISIS ในการทำลายอิรัก นับตั้งแต่เริ่มแรก ข้าพเจ้าก็ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ เพราะไม่ได้หวังดี และมือที่สกปรกของสหรัฐฯ เราจะร่วมมือกับสหรัฐฯ ได้อย่างไรภายใต้เงื่อนไขนี้”
เช่นเดียวกัน รมต.กระทรวงการต่างประเทศ มูฮัมมัดญะวาด ซะรีฟ ก็ปฏิเสธที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐด้วยเช่นเดียวกัน
คำกล่าวบางส่วน ของ ซัยยิด อาลี คาเมเนอี
“สหรัฐฯ ต้องการให้เราร่วมมือกับพวกเขา เพื่อทำสงครามกับ ISIS ซึ่งสาเหตุที่เราไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ ก็เพราะมือของพวกเขานั้นแปดเปื้อนไปด้วยเลือด และอันที่จริงเป้าหมายของ รัฐบาลสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับ ISIS ก็คือ การส่งกองกำลังทหารเข้าพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง การต่อสู้ต่อกลุ่มก่อการร้าย ISIS ในอิรัก ก็ไม่ได้เป็นผลงานของสหรัฐฯ แต่อย่างใด ทว่าความแข่งแกร่งอันนี้เป็นผลงานของทหารและกองกำลังชาวอิรัก”
อิมามคาเมเนอี ถือว่า การออกมาแสดงความเห็น ของ คณะรัฐมนตรีสหรัฐ ในการทำสงครามกับ ISIS ในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่โมฆะ กลวง และกระทำอย่างมีเป้าหมาย การโกหกของสหรัฐฯ ในการประกาศทำสงครามกับ ISIS เป็นจุดเล็กๆจุดหนึ่ง ที่ซ่อนเร้น อยู่หลังม่าน
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ตะโกนร้องโวยวายที่จะเข้าประเทศบางประเทศให้จงได้ และยังได้สร้างกลุ่มต่อต้านซีเรียขึ้นมา แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ในสถานการณ์ของอิรักก็จะเป็นเช่น เดียวกัน
ซัยยิด อาลี คาเมอี ยังได้กล่าวอีกว่า “แท้จริงแล้ว สหรัฐฯ ไม่ได้จะปราบ ISIS อย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ได้คิดจะต่อต้าน ISIS ทั้งสหรัฐฯ และISIS เองต่างก็รู้ดีว่า การเคลื่อนไหวที่ทำให้กระดูกของ ISIS ต้องหัก ไม่ใช่ปฏิบัติการที่มาจากสหรัฐฯ แต่เป็นผลงานของประชาชนและทหารชาวอิรัก ซึ่งได้เรียนรู้ที่จะต่อสู้กับ ISIS และได้โจมตี กลุ่ม ISIS อย่างจริงจัง”
“การบุกโจมตี ISIS โดยประชาชนและทหารชาวอิรักจะยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ความจริงประการหนึ่งก็คือ สหรัฐต้องการที่จะเคลื่อนไหวในอิรัก เพื่อหาข้ออ้างที่จะทำเหมือนกับในปากีสถาน การมีรัฐบาลชั่วคราว และกองทัพที่มีประสิทธิภาพจะทำให้สหรัฐฯ สามารถเข้าสู่แผ่นดินอิรัก โดยไม่ได้รับอนุญาตตามอำเภอใจ และวางระเบิดในพื้นที่ ต่างๆ ของอิรัก และซีเรีย ได้อย่างเต็มที่”
“ขอให้สหรัฐฯ จงรู้ไว้เถิดว่า ถ้าหากพวกท่านปฏิบัติภารกิจเช่นนี้ ปัญหาที่ลงบนหัวเมื่อสิบปีที่แล้วในอิรัก มันจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไม่ต้องสงสัย”
อ้างอิง
