สถานการณ์ความหายนะในเยเมน จากรายงานของกองทุนช่วยเหลือเด็ก

หัวหน้ากองทุนช่วยเหลือเด็ก ซึ่งเพิ่งเดินทางไปยังเยเมนได้กล่าวถึงสถานการณ์ความหายนะของประเทศและประชาชนของเยเมน

หนังสือพิมพ์เยอรมัน Die Vlt รายงานว่า “สถานการณ์ฉุกเฉินในเยเมนกลายเป็นวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” ซึ่งมีสงครามตัวแทนในประเทศนี้

Susan Kruger ประธานกองทุนช่วยเหลือเด็กที่เพิ่งเข้าไปเยี่ยมเยียนเยเมนได้บรรยายถึงสถานการณ์ความหายนะในประเทศนี้

เขาได้เปิดเผยถึงความเดือดร้อนและความทุกข์ของประชาชนและเด็ก ๆ ในเยเมน ว่า กองทุนมีความมุ่งมั่นในหน้าที่ที่จะช่วยเหลือเด็ก ๆ นอกจากนี้เขายังเน้นว่า เจ้าหน้าที่ขององค์กรนี้มักตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเช่นกัน

Kruger ที่เพิ่งเข้าไปเยี่ยมเยียนกรุง ซานา  ( Sana)  และพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มก่อจลาจลในประเทศ ได้เปิดเผยสภาพเงื่อนไขที่เกิดขึ้นว่า ในที่นี้ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำและแม้กระทั่งปัจจัยยังชีพพื้นฐานอื่นๆ  นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดยังถูกระเบิดเสียหายย่อยยับ และนี่เป็นวิธีที่พันธมิตรซาอุดิอาระเบียใช้ในการปราบและตอบโต้กลุ่มเฮาซีย์

นอกจากนั้นในบทความเขายังได้ชี้ไปที่สงครามในเยเมน และการปรากฏตัวของอัลกออิดะห์และไอซิสในประเทศและกล่าวว่า  ตามสถิติการรายงานของข้อมูลองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ตั้งแต่เริ่มสงครามในเยเมน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 10,000 คนและมากกว่า 55,000 คนได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดียวกันกว่า 2,200 คนเสียชีวิตจากโรคอหิวาตกโรค  ทางด้าน สหประชาชาติได้ประเมินวิกฤติด้านมนุษยธรรมในเยเมนว่าเป็นวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประมาณ 84 ล้านคนมีความเสี่ยงจากความหิวโหย   

Kruger กล่าวว่า ในแต่ละคืน พื้นที่ส่วนต่างๆของประเทศนี้ ซึ่งเป็นประเทศอาหรับที่ยากจนที่สุดก่อนสงครามและการทิ้งระเบิดจะเกิดขึ้น  จากการประเมินของกองทุนช่วยเหลือเด็ก ประมาณ 22.2 ล้านคนและเกือบสามในสี่ของคนในประเทศต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมซึ่งเป็นจำนวนเด็ก 11.3 ล้านคน

ตามคำกล่าวของ  Kruger มีโรงพยาบาลและโรงเรียนในประเทศที่ถูกซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรของพวกเขาทิ้งระเบิดและได้รับความเสียหายอย่างมาก

เขาได้ชี้ถึงความพยายามของกองทุนช่วยเหลือเด็กเพื่อช่วยคนเยเมนว่า สหประชาชาติควรดำเนินการเพิ่มเติมในเรื่องนี้ด้วย

นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่า หมอและพยาบาลยังคงตั้งคำถามว่า ทำไมโลกถึงไม่แทรกแซงความหายนะด้านมนุษยธรรมเช่นนี้และทำไมถึงไม่มีใครทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้??

Source: tasnimnews islamtimes