ระบอบยิวไซออนิสต์เริ่มเตรียมการในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจากอิสราเอลไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย
หนังสือพิมพ์อิสราเอล Yediot Aharonot เขียนเมื่อวันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561 ว่า :
คณะรัฐมนตรีอิสราเอล ในความพยายามครั้งแรก เพื่อสร้างทางรถไฟจากปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองไปยังซาอุดิอาระเบีย ได้มีการจัดสรรงบประมาณในปี 2019 จำนวน 4.5 ล้านเหรียญ เพื่อวิจัยและศึกษาเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟ
ซาอุดิอาระเบียและระบอบอิสราเอลมีความสัมพันธ์ที่ดีมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมา
อิสราเอลมีจุดมุ่งหมายที่หลากหลาย โดยอาศัยช่องทางเทคนิค หรือ กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การก่อสร้างทางรถไฟเพื่อแทรกแซงในภูมิภาค
หนึ่งในเป้าหมายของระบอบยิวไซออนิสต์ คือการแทรกแซงและการเข้าไปมีอิทธิพลต่อจุดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ รวมถึงภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว มีศักยภาพสูงในเชิงเศรษฐกิจและเป็นจุดยุทธศาสตร์ในระดับภูมิภาค
เป้าหมายดังกล่าวของระบอบยิวไซออนิสต์ วางอยู่บนบริบทของเป้าหมายที่สำคัญหลักของระบอบการปกครองนี้ นั่นคือ ความคาดหวังและความฝันที่จะครอบครองพื้นที่จากแม่น้ำไนล์ถึงยูเฟรติส
ในกรอบนโยบายดังกล่าว ทำให้เราเห็นภาพว่า การสมคบคิดของอิสราเอลในภูมิภาค ครอบคลุมพื้นที่ ทั้งในอิรัก ซีเรียและรัฐอาหรับของอ่าว ไปยังแอฟริกาเหนือรวมถึงประเทศอียิปต์และประเทศในแอฟริกาอื่นๆ
แผนลวงของระบอบยิวไซออนิสต์ในการปล้นสะดมในพื้นที่
อย่างไรก็ดี อิสราเอลยังคงเผชิญกับอุปสรรคเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของพวกเขา ในปัจจุบัน ระบอบยิวไซออนิสต์ต้องปราชัยอย่างย่อยยับให้แก่กองกำลังอาสาสมัครของประชาชน(กองกำลังมุกอวิมัต)ในภูมิภาค อีกทั้งการขยายอาณาเขตของตนไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองของปาเลสไตน์ และดินแดนที่ถูกครอบครองอยู่ในประเทศอาหรับก็ถูกจำกัดมากขึ้น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ระบอบยิวไซออนิสต์ได้มีการดำเนินการทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบที่เรียกว่า “แผนสันติภาพ”และมาตรการหลอกลวงเพื่อขยายนโยบายแห่งการล่าอานานิคมของตน
การครอบงำทรัพยากรพลังงานของภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งแหล่งปิโตรเลียมก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของอิสราเอลในการขยายความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย และโดยรวมทั้งประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซีย
ระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์กำลังถูกโดดเดี่ยวในตะวันออกกลาง ภายใต้ “แผนสันติภาพ” นี้ จึงพยายามสร้างวิธีการต่างๆ ในความพยายามเปลี่ยนสถานการณ์และขยายความสัมพันธ์กับผู้ปกครองชาติอาหรับรวมทั้งซาอุดิอาระเบีย
ขณะที่ผู้ปกครองชาติอาหรับก็เห็นพ้องด้วยกับระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์ ด้วยกับความโลภของผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจใน รวมถึงความต้องการใช้ท่าเรือของดินแดนที่ถูกครอบครองเพื่อการส่งออก พวกเขาได้ให้คำมั่นสัญญาความเป็นพันธมิตรกับระบอบยิวไซออนิสต์ ในประเด็นนี้เองได้ทำให้เราประจักษ์ถึงการทรยศของพวกเขาต่ออุดมการณ์ปาเลสไตน์อย่างชัดเจนมากขึ้น
รากเหง้าของความร่วมมือระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย
ความร่วมมือของอิสราเอลและซาอุดิอาระเบียในการต่อต้านกลุ่มมุกอวิมัตนั้นมีประวัติอันยาวนาน
ในเดือนมิถุนายน ปี 2010 ในหนังสือพิมพ์อังกฤษ “The Times” ได้ตีพิมพ์ข่าวว่า ราชวงศ์ซาอูดได้ตกลงที่จะให้อิสราเอลใช้น่านฟ้าของตน เพื่อโจมตีประเทศในเครือของกลุ่มมุกอวิมัตในภูมิภาคนี้
โรคกลัวอิหร่าน เป็นข้ออ้างของซาอุดิอาระเบียในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับระบอบยิวไซออนิสต์
ประเด็นนี้แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายของการก่อการร้ายและการก่อสงครามของระบอบยิวไซออนิสต์ในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียเพื่อก่อความไม่มั่นคงในภูมิภาค
เว็บไซต์ the national interest ได้รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยยืนยันในรายงานว่า นโยบายของสหรัฐฯและอิสราเอลหวังที่จะทำให้เกิดความไม่สงบในอ่าวเปอร์เซีย
ประเด็นที่ต้องพิจารณาในสถานการณ์เช่นนั้น คือ ประเทศอาหรับบางประเทศ รวมถึงประเทศซาอุดิอาระเบียกำลังสร้างความสัมพันธ์แบบปกติกับอิสราเอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำในความเป็นชาติมุสลิม พวกเขาจำเป็นต้องชี้แจงให้กับสาธารณชนเข้าใจถึงความชอบธรรมในการสร้างสัมพันธ์ดังกล่าว ทั้งนี้ จึงได้อ้างถึงภัยคุกคามจากอิทธิพลของอิหร่าน เป็นเหตุผลในความร่วมมือกับรัฐบาลระบอบไซออนิสต์
สถานการณ์โรคกลัวอิหร่านที่ถูกสร้างขึ้นโดยระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์และราชวงศ์ซาอูดในภูมิภาคนี้ ซึ่งกำลังถูกเฝ้าติดตามโดยหน่วยงานของระบอบเหล่านี้ผ่านการแทรกแซงและการเข้ายึดครองในเขตพื้นที่หลายส่วนของตะวันออกกลาง ได้ก่อให้เกิดความไม่มั่นคง ความรุนแรงและการก่อการร้ายปกคลุมทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง
Source: parstoday.