อิมามมะฮ์ดี ความหวังใหม่ของโลก (ตอน 1)

1267



ถอดความและเรียบเรียง โดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัดยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

บทนำ
        ความศรัทธา ในเรื่อราวที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดี  เป็นความศรัทธาอันยิ่งใหญ่(อะกีดะตุลกุบรอ) ที่มีอยู่ในอิสลาม   ด้วยความศรัทธา อันนี้ก่อให้เกิดพลังและความหวังให้กับมุสลิมที่รอคอยวันแห่งการปักธงชัย แห่งลาอิลาฮาอิลลัลลอฮ       เหนือโลกทั้งมวลให้เป็นจริงความศรัทธาที่ถูกต้องต่อสิ่งนี้ก่อให้เกิดความ กระตือรือร้นที่จะเคลื่อนไหวในการรับใช้ ศาสนา และสร้างฐานรองรับต่อการปรากฏของท่านเพื่อที่จะสถาปนารัฐอิลลามขึ้นมาบน โลก    ซึ่งเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของมุสลิมทุกคน
         การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านได้รับความสำเร็จ   เป็นผลมาจากความศรัทธาและเข้าใจดีในเรื่องอิมามมะฮ์ดีของประชาชน และเป็นสาเหตุหลักที่ สำคัญอันหนึ่งที่ช่วยให้การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุก วันนี้  บรรดาศัตรูของอิสลามรู้ดีว่าอะกีดะฮ์    อันหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อแผนร้ายของพวกเขา  และเป็นก้างที่ขวางคอพวกเขาในการคิดที่จะครองโลกเพราะตราบใดที่อะกีดะฮ์อัน นี้ยังมีอยู่อย่างถูกต้องในหัวใจของมุสลิม   แผนการของพวกเขาก็ไม่ถึงเป้าหมาย
         ดังนั้นบรรดาศัตรูของอิสลามจึงได้พยายามหาวิถีทางในการที่จะกำจัดเอาอะกีด ะฮ์อันนี้ออกไปจากหัวใจของมุสลิม   และผู้ที่สนองรับนโยบายอันชั่วช้านี้ได้ดีที่สุดก็คือบรรดามุสลิมผู้โง่เขลา และไร้ความเข้าใจ     อย่างลึกซึ้งในเรื่องของอิสลาม    โดยวิธีการสร้างมะฮ์ดี ตัวปลอมหรือบิดเบือนความจริงที่เกี่ยวกับอิมามมะฮ์ดีอย่างที่บางกลุ่มบางพวก ได้อุตริขึ้น เช่น พวกหนึ่งพยายามที่จะชี้ให้เห็นว่าใครก็เป็นมะฮ์ดีได้  ถ้าเขามาเพื่อฟื้นฟูศาสนา  และอีกหลายๆพวกที่ผ่านมาได้พยายามที่จะสร้างมะฮ์ดีตัวปลอมขึ้นมาในขณะที่ ความชัดแจ้งของฮะดีษที่มีอยู่ในทุกมัซฮับ(นิกาย) นั้น   ทั้งชื่อและเชื้อสายของอิมามมะฮ์ดีได้รับการยืนยันว่า    เขาคือผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากท่านศาสดา (ศ ) และเป็นลูกหลานของท่านหญิง  ฟาฏิมะฮ์  ( อ)
            หนังสือเล่มนี้ได้ถูกเขียนโดยขณะอุละมาอฺแห่งสถาบันทางแห่งสัจธรรม (ดารฺ รอฮฺเฮ ฮัก)  ซึ่งเป็นสถาบันศาสนาที่สำคัญอันหนึ่งของเมืองกุมมีอุละมาอฺและนักปรัชญาหลาย ท่านได้ถูกผลิตออกจากสถาบันนี้   ดังนั้น  เนื้อหาทั้หมดในหนังสือเล่มนี้จึงมีความแน่นอนในความถูกต้องของเนื้อหาและ หลักฐานด้วยความหวังที่จะเสนอ สัจธรรมอันยิ่งใหญ่นี้ให้กับผู้อ่านทุกท่าน  ที่ประสงค์จะมีความเข้าใจให้ถูกต้องในเรื่องของอิมามมะฮ์ดี   เพื่อจะได้รับประโยชน์แท้จริงจากอะกีดะฮ์อันนี้
                                                                      ด้วยสลามและดุอา
                                                                       ซัยยิดสุไลมาน ฮุซัยนี 

ชีวประวัติ

ชื่อของท่าน                  เป็นคำสั่งเสียจากบรรดาอิมามมะอฺศูม ไม่ให้เรียกชื่อเต็ม
ของท่าน ตราบใดที่ท่านยังไม่ ปรากฏ และให้เรารู้แต่ เพียงว่าชื่อของท่าน
เหมือนกับชื่อของรอซูลุลอฮ ฉายา
เดียวกันกับรอซูลุลลอฮ

ฉายาต่างๆของท่าน      ฉายาที่รู้จักกันทั่วไปก็คือ   มะฮ์ดี
  กออิด   ฮุจญัต      บะกียะตุ้ลลอฮ

บิดาของท่าน               คือท่านอิมามฮะซัน  อัสการี  (อ. ) อิมาม ที่11


มารดาของท่าน            ท่านหญิงผู้ทรงเกียรติ   หลานสาวของไกเซอร์
แห่งโรม   มีนามว่า    นัรญิส

สถานที่กำเนิด              เมืองซามารอ ประเทศอิรัก    วันที่ 15 เดือน
ชะอฺบาน    ฮิจเราะฮ์ที่   255  ( ซึ่งจนถึง ปัจจุบันอายุได้หนึ่งพันหนึ่งร้อยหกสิบปี และอายุของท่านจะยืนยาวต่อไปตราบเท่าที่อัลลอฮทรงประสงค์ จนกระทั่งถึงวันแห่งกา  ปรากฏตัวของท่าน  เพื่อนำความสันติและยุติธรรมมาสู่ชาวโลก)


ความเชื่อในมะฮ์ดี   ผู้ถูกสัญญาในศาสนาต่างๆ

ความเชื่อในอิมามมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญาในลักษณะที่ว่าจะมีบุรุษหนึ่ง จากพระผู้เป็นเจ้ามาปลดปล่อยชาวโลกให้พ้นทุกข์โศกนั้นเป็นความเชื่อที่มีอยู่ในทุกศาสนาและทุกนิกาย  มิได้มีอยู่ในแนวทางของชีอะฮ์เท่านั้น แต่ความเชื่ออันนี้นั้นมีอยู่ในพี่น้องสุนนี่และในศาสนาของยะฮูดี   คริสเตียน กล่าวถึงผู้ยิ่งใหญ่จากพระผู้เป็นเจ้ามาปลดปล่อยชาวโลกให้พันจากทุกข์โศก และพวกเขาทุกคนก็กำลังรอคอยมหาบุรุษผู้นี้อยู่
ในคัมภีร์    ดี้ด   ของชาวฮินดูได้กล่าวไว้ว่า   หลังจากที่โลกนี้
ได้เข้าสู่ยุคเสื่อมโทรมที่สุด กษัตริย์หนึ่งจะปรากฏขึ้นในยุคสุดท้าย เขาคือผู้นำแห่งศิลธรรม เขามีชื่อว่า  มันศูร  เขาจะพิชิตโลกและทำให้โลกทั้งหมดอยู่ภายใต้ศาสนาของเขา ทั้งผู้ศรัทธาและไม่ศรัทธาจะรู้จักเขา เขาประสงค์สิ่งใดจากพระเจ้าของเขาจะได้รับสิ่งนั้น
ในคัมภีร์  ญามาซบ์  ของชาวโซโรอัสเตอร์ ได้กล่าวไว้ว่าบุรุษหนึ่งจากลูกหลานของฮาชิม จะปรากฏขึ้นบนหน้าแผนดิน ผู้มีร่างกายกำยำและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ยืนหยัดอยู่ในศาสนาของตาของเขา   จะนำความเจริญมาสู่อิหร่านและจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยระเบียบกฎเกณฑ์จนถึงขั้นที่หมาป่าจะกินน้ำเคียงข้างลูกแกะได้
ในคัมภีร์   ซันด์    ซึ่งเป็นอีกนิกายหนึ่งของโซโรอัสเตอร์ ได้กล่าวไว้ว่า  เมื่อชัยชนะของพระเจ้ามาถึงบรรดามารร้ายและสาวกของมันจะถูกพันธนาการไว้กับแผนดินและไม่มีทางเข้าสู่สรวงสวรรค์และหลังชัยชนะอันนี้โลกจะเข้าสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง  และลูกหลานของอาดัม จะนั่งอยู่บนบังลังก็แห่งความผาสุกตลอดไป
ในคัมภีร์   เตารอต บทที่ 20  : 17 ได้กล่าวถึงอิมาม สิบสองจากลูกหลานของอิสมาอีลจะปรากฏขึ้น
          ในคัมภีร์  ซะบูร ของท่านนบีดาวูด   ได้กล่าวไว้ว่า  ส่วนผู้ที่ศอและหฺเท่านั้นจะเป็นทายาทบนหน้าแผ่นดิน และเขาจะอยู่ในนั้นตลอดไป

ซึ่งตรงกันกับโองการอัลกุอานที่ว่า

        
وَلَقَدْ كَتَبْنَا فِي الزَّبُورِ مِن بَعْدِ الذِّكْرِ أَنَّ الْأَرْضَ يَرِثُهَا عِبَادِيَ الصَّالِحُونَ

และ เราได้บันทึกไว้ใน ซะบูร  หลังจาก   (ที่ได้บันทึกไว้แล้วใน) เตารอต ว่าแท้จริงบ่าวผู้ศอและหฺของข้าเท่านั้นที่จะเป็นทายาทบนหน้าแผ่นดิน  (อัมบิยาอฺ : 105)

และอีกโองการหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า

وَعَدَ اللَّهُ الَّذِينَ آمَنُوا مِنكُمْ وَعَمِلُوا الصَّالِحَاتِ لَيَسْتَخْلِفَنَّهُمْ فِي الْأَرْضِ كَمَا اسْتَخْلَفَ الَّذِينَ مِن قَبْلِهِمْ وَلَيُمَكِّنَنَّ لَهُمْ دِينَهُمُ الَّذِي ارْتَضَىٰ لَهُمْ وَلَيُبَدِّلَنَّهُم مِّن بَعْدِ خَوْفِهِمْ أَمْنًا ۚ يَعْبُدُونَنِي لَا يُشْرِكُونَ بِي شَيْئًا ۚ وَمَن كَفَرَ بَعْدَ ذَٰلِكَ فَأُولَٰئِكَ هُمُ الْفَاسِقُونَ

และอัลลอฮได้ทรงสัญญาไว้กับบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบการดี
(อามัลศอและหฺ) ในหมู่พวกเจ้า   โดยจะให้พวกเขาสืบทอดอำนาจบนหน้าแผ่นดิน  เหมือนกับที่พระองค์ได้ทรงทำให้บุคคลก่อนหน้าเขาสืบทอดมาแล้ว  และพระองค์จะเปลี่ยนความหวาดกลัวของพวกเข้าให้เป็นความปลอดภัย ดังนั้นจงภักดีต่อพระองค์เพียงองค์เดียว   และอย่างได้ตั้งภาคีใดๆ กับ พระองค์  (อันนูร: 55 )

อีกโองการหนึ่งได้กล่าวว่า

وَنُرِيدُ أَن نَّمُنَّ عَلَى الَّذِينَ اسْتُضْعِفُوا فِي الْأَرْضِ وَنَجْعَلَهُمْ أَئِمَّةً وَنَجْعَلَهُمُ الْوَارِثِينَ

และเราได้ประสงค์ที่จะทำให้ความโปรดปรานแก่บรรดาผู้ที่ถูกกดขี่
บนหน้าแผ่นดิน    โดยทำให้พวกเขาเป็นผู้นำทั้งหลาย (บรรดาอิมาม)และทำให้พวกเขาเป็นทายาทผู้สืบมรดก  (เกาะศอศ:5)  

ซึ่งโองการเหล่านั้นทั้งหมดที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นข้อพิสูจน์อย่าง
เพียงพอ  ที่จะกล่าวว่า สุดท้ายแล้ววันหนึ่งโลกจะตกอยู่ในมือผู้เหมาะสมของบ่าวของ พระเจ้า   และมรดกแห่งอำนาจอันนี้จะกลับไปสู่พวกเขา    และจะเป็นวันที่  ตำแหน่งผู้นำและผู้ปลดปล่อยชาวโลกจะมาถึงมือของเขา

มนุษย์ได้หลงจากทางนำแห่งพระเจ้าเข้าสู่จุดเสื่อมสูงสุดของ
ความเป็นมนุษย์และไร้จริยธรรม    ซึ่งแทบจะไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้วในความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงที่มีคุณธรรมและศิลธรรม   และในไม่ช้ามนุษย์จะพบว่าการใช้กำลังหรืออำนาจ  หรือ ความรู้และวิชาการทางด้านวัตถุหรือเทคนิคต่างๆ  ของมัน  จะไม่สามารถทำให้โลกนี้มีระเบียบ
หรือความยุติธรรม  จนไปสู่ความสำเร็จสูงสุดได้     นอกเสียจากว่าพวกเขาจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรม   และการเป็นอยู่ให้เป็นไปตามพื้นฐานของความศรัทธาและยอมรับการชี้นำและอำนาจของพระเจ้า   และยอมรับผู้นำแห่งพระเจ้า   เพื่อที่จะนำพวกเขาฝ่าฟันอันตรายต่างๆ เข้าสู่ทางแห่งความรอดพันของมนุษยชาติ  นำโลกและมนุษยชาติเข้าสู่การปกครองที่สมบูรณ์แบบซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของความยุตธรรมและสันติภาพ

โปรดติดตามตอน 2