14 เรื่องที่ซาอุดิอาระเบียไม่อยากให้คุณรู้ !!

9659

1.

ซาอุดิอาราเบีย เป็นประเทศที่ซื้ออาวุธจากสหรัฐ สูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ และ สนามบิน เจดดะห์ เป็นสนามบินที่ขนระเบิดที่ซื้อจากฝรั่งมาทิ้งในเยเมน

2.

ชาวเยเมน คือ อาหรับที่ยากจนที่สุด และซาอุ คือ อาหรับที่ร่ำรวยที่สุด คนรวยสามารถซื้อความจริงได้ ทำให้คนพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากให้พูดได้ ด้วยเงิน

3.

ซาอุปล่อยคลิป สกัดมิสไซล์ ซึ่งหน้าแตกในภายหลัง เพราะคลิปนั้นเป็นการซ้อมมิสไซล์ของเกาหลี

4.

ซาอุ อ้างว่า ทำสงครามเพื่อปลดปล่อยประชาชนชาวเยเมน แต่ประชาชนชาวเยเมน กว่า สองล้านคนเกลียดซาอุ แม้แต่นักบินรายหนึ่งยังรู้สึกผิดที่ต้องทิ้งระเบิดในเยเมน จนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย

5.

เราลืมไปแล้วหรือว่า ตระกูลอาหรับซาอู๊ด เคยเป็นโจรทะเลทรายเร่รอนที่ตกลงทำสัญญากับ มูฮัมมัด บิน อับดุลวะฮาบ เพื่อครองแผ่นดินอาหรับ แล้วเปลี่ยนชื่อแผ่นดินนั้น เป็นชื่อตระกูลของตัวเอง

6.

ตระกูลซาอู๊ด สามารถทำให้ ผู้รู้ฝ่ายศาสนา พูดในสิ่งที่พวกเขาอยากให้พูดได้

7.

สื่ออาหรับ หลายค่ายที่มีอิทธิพล ต่อโลก และตะวันตกให้การสนับสนุนว่าน่าเชื่อถือ เป็นของซาอุ หรือ อยู่ภายใต้อิทธิพลของซาอุ ทั้งทางตรง และทางอ้อม

8.

บุคคล หรือ กลุ่มที่ ต่อต้าน ตระกูลนี้ มักถูกตีตราว่า เป็นพวกตกศาสนา นอกรีด ฆ่าได้ไม่บาป และถูกถอดตำแหน่ง

9.

บัยตุลลอฮ เป็นแผ่นดิน อามีน หมายถึงทุกคนที่เข้ามา จะได้รับความปลอดภัย แต่น่าแปลกที่ หลายๆ ปี กลับมี เหตุการณ์ตายหมู่เกิดขึ้นอย่างมากมาย ทั้งนี้ ซาอุ ไม่อาจโทษ โศกนาฎกรรมเหล่านี้ ให้ฝ่ายที่ตนเกลียดได้ทั้งหมด เพราะบางเหตุการณ์ เช่น เครนหล่นทัพผู้แสวงบุญ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า เป็นอุบัติเหตุ ในมุมหนึ่ง มันบ่งชี้ถึงความ”วิบัติ” ที่เกิดในสมัยการปกครองของ ตระกูลนี้ และหากย้อนไปตั้งแต่ คนแรกของตระกูล จนถึงปัจจุบัน เราจะพบเหตุการณ์แปลกประหลาดมากมาย

10.

ฮาดิษของท่านนบี อวยพรให้เมือง ชาม(ซีเรีย) และ เยเมน แต่เมื่อท่านศาสดา(ศ) ถูกถามถึงเมืองนัจด์ ท่านกลับไม่อวยพรให้คนเมืองนี้ แต่กลับทิ้งท้ายคำพูดว่า “เขาของซาตานจะงอกที่นั่น”

11.

“ฮาดิษอีกบทของศาสดา พยากรณ์ถึงสัญญาณวันกิยามัต (วันสิ้นโลก) ไว้ว่า “ท่านจะเห็นคนเลี้ยงสัตว์ เท้าเปล่า เปล่าเปลือย และคนขัดสน แข่งขันกันสร้างตึกสูง”

มีคำอธิบายจากศาสดา เมื่อถูกถามว่า คนที่แข่งกันสร้างตึกพวกนี้คือใคร ท่าน(ศ) ตอบว่า “พวกอาหรับ”

ปัจจุบัน อาหรับกำลังแข่งกันสร้างตึกสูงเสียดฟ้าจริงๆ โดยตึกที่สูงที่สุดในโลก คือ บุรญ์คาลิฟา ตั้งอยู่ในประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรต เมืองดุไบ ความสูงอยู่ที่ 828 เมตร เป็นอันดับหนึ่งของโลก ส่วนโรงแรมหอนาฬิกามักกะฮ์ สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยความสูง 601 เมตร

12.

ตึกสูงที่สร้าง ใกล้ บัยตุลลอฮ ปัจจุบัน เงาของมัน ได้ครอบงำบัยตุลลอฮ์ สร้างโดย สถาปนิกชาวอังกฤษคนหนึ่ง มีชื่อว่า นอร์แมน ฟอสเตอร์ (Norman foster) เขาเป็นสมาชิกฟรีแมนซัน ระดับอาวุโส และยังคนเป็นเดียวกับคนที่เปลี่ยนแปลง สถานที่ขว้างหิน

13.

จันทร์หงาย เป็นสัญลักษณ์ที่มีลักษณะคล้าย สิ่งที่อยู่บนหัวของซาตาน

14.

นาซีรุดดีน อัลบานี ผู้รู้ราชสำนักของตระกูลซาอ๊ด คือ ผู้ออกฟัตวา(คำสั่งวินิจฉัย)ให้ปาเลสไตน์ออกจากบ้านเกิดของตนเอง โดยเขากล่าวว่า “วาญิบที่ชาวปาเลสไตน์ ต้องอพยพ และต้องละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด และยกแผ่นดินให้ยิวอิสราเอลครอบครอง หากไม่อพยพออก ถือว่าได้กระทำในสิ่งที่ฮะร่าม” (ฟะตาวา ลิล อัลบานีย์ หน้า 18) และอีกบริบทหนึ่ง อัลบานีย์ ออกคำวินิจฉัยว่า ห้ามบรรดามุสลิมไปขอดุอา ตะวัซซุล ที่สุสานท่านนบี ซ.ล. (ตะวัซซุล อันวาอุฮุ วะอะฮกามุฮุ ลิลอัลบานีย์ หน้า 264,266)

 

เชิงอรรถ

[1] :http://www.almasirah.net/الإعلام-الحربي-يوزع-مشاهد-لإطلاق-صارو-4/

http://www.presstv.ir/Detail/2016/10/28/490989/Yemen-launch-ballistic-missile-Borkan1-Saudi-Arabia-King-Abdulaziz-International-Airport-Jeddah

http://www.thairath.co.th/content/122942

[2] : http://islamicstudiesth.com/index.php/news_articles/18-news_articles/591-saudis-resorting-thaad-missile-yemen

นักบินซาอุฯ ฆ่าตัวตาย หลังเห็นภาพศพที่แหลกเป็นชิ้นของบรรดาสตรีและเด็กชาวเยเมน

เจาะลึก! โครงสร้างแห่ง “อำนาจ” ในราชวงศ์ซาอุฯ

https://www.gotoknow.org/posts/97875

http://hilight.kapook.com/view/126393

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000015442

ฟ้าผ่าเครนล้มทับผู้แสวงบุญที่มัสยิดหะรอม มักกะห์ เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก

http://thaitalabeh.com/บทความ/วิเคราะห์ฮาดิษ-เขาของชั/

-ฮาดิษ “เขาของชัยฏอน” เป็นฮาดิษ ที่มีรายงานอยู่ตาราฮะดิษ ที่น่าเชื่อถือ อย่างมากมาย ซึ่งมีบันทึก 8 ซะนัด ศอฮิฮ ในบุคอรีย์ [1] 5 ซะนัดศอฮิฮ ในมุสลิม [2] 14 ซะนัดศอฮิฮ ในมุสนัดอะฮหมัด[3] สามฮาดิษ ในซุนัน ตีรมีซีย์ [4] หนึ่งฮาดิษ จาก มาลิก อิบนุ อะนัส(อิมามมาลิกีย์)[5] และจาก ซะฮาบีย์ อุลามาสายฮานาฟีย์ และนักริญาล หนึ่งฮาดิษ [6]

ตัวอย่างรีวายะฮ์

(عَن ابن‌عُمر قَالَ ذَکرَ النَّبِيُّ(صلى الله عليه وسلم): «اللَّهُمَّ بَارِکْ لَنَا في شامِنَا، اللَّهُمَّ بَارِکْ لَنَا في يَمَنِنَا». قَالُوا: وَفي نَجْدِنَا. قَالَ: «اللَّهُمَّ بَارِکْ لَنَا في شامِنَا، اللَّهُمَّ بَارِکْ لَنَا في يَمَنِنَا». قَالُوا: يَا رَسُولَ الله وَفِي نَجْدِنَا. فَأَظُنُّه قَالَ في الثَّالِثَة: «هُنَاکَ الزَّلاَزِلُ وَالْفِتَنُ، وَبِهَا يَطْلُعُ قَرْنُ الشَّيْطَانِ»)[7]

อับดุลลอฮ บิน อุมัร กล่าวว่า ท่านศาสดา (ศ) กล่าวว่า โอ้ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า โปรดประทานความมงคลแก่ดินแดนชาม และเยเมน ให้แก่เราด้วยเถิด” ศอฮาบะฮ จำนวนหนึ่งจึงเอ่ยถามว่า แล้วในเมืองนัจด์ของเราละครับ ? ท่านศาสดาได้ล่าวดุอาซ้ำอีกครั้ง และศอฮาบะฮ ก็ได้ถามท่านศาสดาอีกครั้งเช่นเดียวกัน จนถึงครั้งที่สาม ศาสดา(ศ) ตอบว่า ในดินแดน จะปรากฎ ความอลม่าน และฟิตนะฮ จะเกิดขึ้น และเขาของชัยฏอนจะปรากฎขึ้น ณ ที่แห่งนั้น”

[1] کتاب الاستسقاء(15)، باب مَا قِيلَ فِى الزَّلاَزِل ِو َالآيَاتِ(25)، جزء2، ص41؛ 2. الفتن باب قَوْل ِالنَّبِيِّ(صلى الله عليه و سلم) «الْفِتْنَةُ مِنْ قِبَلِ الْمَشْرِقِ»، ج 9، ص67 ، حديث1؛ 3. سند ديگر در ادامه حديث قبل؛ 4. الفتن باب قَوْل ِالنَّبِيِّ(صلى الله عليه وسلم) ± ² «الْفِتْنَةُ مِنْ قِبَلِ الْمَشْرِقِ»، ج9، ص67، حديث2؛ 5. فرض الخمس باب مَا جَاءَ فِى بُيُوتِ أَزْوَاجِ النَّبِىِّ(صلى الله عليه وسلم)، باب4، جزء4، ص100؛ 6. كتاب بدء الخلق باب صِفَةِ إِبْلِيسَ وَ جُنُودِ هِ، باب11، جزء4، ص150؛ 7. كتاب المناقب، باب حدثنا ابو معمر، باب6، جزء4، ص220؛ 8. كتاب المغازى، باب قُدُومُ الأَشْعَرِيِّينَ و َأَهْلِ الْيَمَنِ، جزء5، ص220، حدیث4
[2] . کتاب الفتن و أشراط الساعة، باب الفتنة من المشرق، جزء8(ج2)، ص180؛ 2. کتاب الفتن و أشراط الساعة، باب الفتنة من المشرق، جزء8 (ج2)، ص181
[3] . مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث6130، ج3، ص395؛ 2. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث5775، ج3، ص310؛ 3. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث4782، ج3، ص65؛ 4. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث5227، ج3، ص172؛ 5. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث4854، ج3، ص82؛ 6. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث4906، ج3، ص93؛ 7. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث5537، ج3، ص250؛ 8. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث5557، ج3، ص254؛ 9. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث،5792، ج3، ص314؛ 10. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث6046، ج3، ص375؛ 11. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث6174، ج3، ص407؛ 12. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث، 6207، ج3، ص416؛ 13. مسند عبدالله بن‌عمر، حدیث6395، ج3، ص465؛ 14. مسند ابومسعود انصاری، حدیث17530، ج7، ص112.
[4] . کتاب الفتن، ج3، ص350، باب 51، ح2344؛ 2. کتاب الفتن، باب65، ص362، ح2370؛ 3. کتاب الْمَنَاقِبِ بَاب فِي فَضْلِ الشَّام ِوَ الْيَمَنِ، جزء5، ص389، ح4047.
[5] تنویر الحوالک شرح موطأ مالک، ج3، ص141ـ142؛ موطأ مالک، کتاب الاستئذان، کتاب54، ح29
[6] سيرأعلام النبلاء، ذيل سالم بن عبدالله، ج5، ص383
[7] صحيح بخاری، كتاب الفتن، باب قَوْل ِالنَّبِىِّ( صلى الله عليه و سلم) «الْفِتْنَةُ مِنْ قِبَلِ الْمَشْرِقِ» ، ج9، ص67

ตัวอย่าง ตัวบทฮาดิษ คนเท้าเปล่า เลี้ยงสัตว์ แข่งสร้างตึกสูงระฟ้า

قال فأخبرنی عن الساعة قال ما المسؤول عنها بأعلم من السائل قال فأخبرنی عن أمارتها قال أن تلد الأمة ربتها وأن ترى الحفاة العراة العالة رعاء الشاء یتطاولون فی البنیان

บันทึกใน ศอฮิฮ มุสลิม หมวดอีหม่าน และ อิสลาม ฮาดิษที่ 8